- 24 กรกฎาคม 2022
- อู่ซ่อมรถประกัน
- 3948 Views
ประกันภัยดีดี.com
อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน อบอุ่น สบายใจ และมั่นใจในการทำประกันรถยนต์
หากคุณกำลังมองหา อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน วันนี้ทางประกันภัยดีดีได้รวบรวมข้อมูล อู่บริการ อู่ประกันภัยยอดนิยม อยู่ในนี้ อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐานใกล้ฉัน เป็นอู่บริษัทในเครือ ของศรีกรุงโบรคเกอร์ ให้ความมั่นใจ เวลานำรถ เข้าอู่ซ่อม อย่างสบายใจ สิ่งที่จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจ และความคุ้มครองรถของเราเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนนมาแนะนำให้ได้รู้จักกันครับ
“รถยนต์” ถือเป็นยานพาหนะที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ธุรกิจประกันภัยรถยนต์เข้ามามีบทบาทสำคัญกับผู้ใช้รถมากขึ้นด้วยนั่นเอง
สารบัญ
ประกันภัยรถยนต์ ก็มีแล้ว แต่อยากได้ อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน ประกันภัยดีดีมีคำตอบ
ประกันภัยรถยนต์ คืออะไร
การประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) จัดเป็นการประกันวินาศภัยประเภทหนึ่งที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ซึ่งประกอบไปด้วย ความเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์ และความเสียหายที่รถยนต์ได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น
ก่อนที่เราจะนำรถยนต์เข้า อู่ซ่อมรถยนต์ใกล้ที่สุด เราจะต้องตรวจสอบว่า อู่ซ่อมรถยนต์มีมาตรฐานและความปลอดภัยหรือไม่ เพราะฉะนั้นคุณจำเป็นต้องเลือกใช้บริการ อู่ซ่อมรถดีๆ พร้อมกับตรวจสอบราคาประเมินคร่าวๆ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เราถูกเอาเปรียบได้ง่าย ว่าแล้วจะมีเทคนิคสังเกต อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน อย่างไรบ้าง
- เลือกอู่ซ่อมรถที่มีมาตรฐานและปลอดภัย
อันดับแรกคุณจะต้องเลือก “อู่ซ่อมรถดีๆ” อย่างน้อยจะช่วยทำให้เรารู้สึกสบายใจระหว่างนำรถยนต์ส่งซ่อม แนะนำให้เลือกหา อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน ใกล้ฉัน แล้วสอบถามจากคนที่คุ้นเคยระแวกใกล้เคียง หรือสอบถามคนที่เคยนำรถเข้าอู่ซ่อมรถมาก่อน ก็จะเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจของคุณได้
- เลือกอู่ซ่อมรถที่ได้รับการรับรองจาก คปภ.
หากคุณต้องการเลือกใช้บริการอู่ซ่อมรถใกล้ที่สุด แนะนำให้เป็นอู่กลางซ่อมรถที่ผ่านการรับรองจาก คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ก็จะช่วยให้เรามั่นใจระดับนึงเลยว่าอู่ซ่อมรถยนต์นั้นตรงตามมาตรฐาน นอกจากนี้ถ้าเรา เลือกอู่ซ่อมรถในเครือบริษัทประกัน ซึ่งเป็น อู่ซ่อมรถเคลมประกัน ที่เราทำไว้ กรณีรถเกิดอุบัติเหตุตามเงื่อนไขที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ก็สามารถส่งซ่อมหรือเคลมได้ด้วย โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน
แต่ถ้าเราเลือกอู่ซ่อมรถยนต์นอกเครือบริษัทประกัน เราก็จะต้องสำรองค่าซ่อมรถเอง แล้วจึงไปเบิกกับทางบริษัทประกันรถยนต์ภายหลัง เพื่อความสบายใจประกันภัยดีดี ขอแนะนำท่าน เลือก อู่ซ่อมรถในเครือ จะมี รายชื่ออู่ซ่อมรถ ที่ผ่านการรับรอง และสะดวกในการนำรถเข้าไปซ่อม ไม่ต้องกังวลใจ ในเรื่องอื่นๆ ตามมา รวมถึงไม่ต้องสำรองจ่าย ใดๆ เลย
- เลือกอู่ซ่อมรถที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญ
จากนั้นให้เรา “เลือกอู่ซ่อมรถยนต์ที่มีประสบการณ์ทำงานมานาน” หรือผู้เชี่ยวชาญแบบเฉพาะทาง อย่างเช่น เจ้าหน้าที่บริการซ่อมเครื่องยนต์ บริการเปลี่ยนอะไหล่ บริการเคลือบสีรถ ขัดไฟ พ่นกันสนิม หรือบริการซ่อมบำรุงทุกประเภท ซึ่งความเป็นมืออาชีพเหล่านี้จะช่วยทำให้เรารู้สึกหายห่วงทุกครั้งที่เข้ารับบริการมากขึ้น
แล้วซ่อมศูนย์กับซ่อมอู่แบบไหนถึงใช่สำหรับคุณ อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐานใกล้ฉัน เราจะต้องเข้าใจก่อนว่าแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียต่างอย่างไร จึงจะสามาถตัดสินใจตามความต้องการของเราได้นั่นเอง
- เลือกอู่ซ่อมรถที่มีการรับประกันหลังงานซ่อม
“เพราะบริการเป็นหัวใจหลักของลูกค้า” อู่ซ่อมรถยนต์ที่ดีนั้นจะต้องมีบริการซ่อมรถที่ดี และน่าเชื่อถือด้วย เช่น การดูแลลูกค้าระหว่างการซ่อมรถยนต์ การบริการหลังการขาย การรับประกันหลังจากซ่อมรถเสร็จ และอู่ซ่อมรถที่ดีจะต้องคอยติดต่อลูกค้า พร้อมกับรายการความคืบหน้าในการส่งซ่อมรถเป็นอย่างดี รวมถึงบริการที่สะดวก รวดเร็ว และคุณภาพที่พึงพอใจเช่นกัน
- เลือกอู่ซ่อมรถที่มีราคามาตรฐาน
สิ่งสำคัญที่จะต้องตรวจสอบก่อนนำรถเข้าอู่ ก็คือ “ค่าซ่อมรถยนต์” เพราะเคยมีหลายเคสเคยจ่ายค่าซ่อมรถแพงๆ โดยที่ไม่ทราบราคาชัดเจนมาก่อน แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้อู่ซ่อมรถยนต์หลอกเก็บเงินคุณภายหลัง จะต้องสอบถามราคาซ่อมรถยนต์กับทางอู่ซ่อมรถ หรือตรวจสอบราคาประมาณคร่าวๆ ให้เป็น แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าราคาที่อู่ซ่อมเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ แนะนำให้ลองเปรียบเทียบราคากับอู่ซ่อมรถยนต์ที่อื่นด้วย เราจะได้ไม่โดนเอาเปรียบ อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐานใกล้ฉัน
ทั้งนี้ถ้าใครที่ต้องการใช้ บริการอู่ซ่อมรถ เพื่อเคลมประกัน ตามปกติแล้วทาง อู่ซ่อมรถยนต์จะประเมินราคาซ่อมรถส่งให้กับบริษัทประกันรถยนต์อนุมัติก่อน พอหลังจากบริษัทประกันรถยนต์ทำการอนุมัติเเล้ว ก็จะทำการส่งซ่อมหรือเคลมรถให้กับคุณตามข้อตกลง
ดังนั้น ก่อนที่เราจะใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์ เราควรตรวจสอบให้ดีว่าอู่ซ่อมรถนั้นมีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือและบริการที่ดีหรือไม่ รวมถึงกำหนดราคาซ่อมที่ชัดเจน ก็จะทำให้คุณไว้วางใจได้มากขึ้น พอรู้อย่างนี้แล้วเราก็ควรทำประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อช่วยคุ้มครองค่าซ่อมรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นบริการซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่รถ ประกันรถยนต์ก็จะดูแลให้เสมือนมีคนรู้ใจที่ดี มีบริการเคลมที่สะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์คุณมากยิ่งขึ้น
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน ระหว่าง ซ่อมห้าง และซ่อมอู่ ต่างกันอย่างไร และมีข้อดีอย่างไร?
“ซ่อมห้าง ซ่อมศูนย์” หมายถึง การนำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อที่เราซื้อมา หรืออาจเป็นศูนย์ที่เราออกรถก็ได้ พูดง่ายๆ คือ ซ่อมห้าง คือการ ซ่อมศูนย์ นั่นเอง ซึ่งการ ซ่อมห้าง มีทั้งข้อดีและข้อเสียดังนี้
“ซ่อมห้าง” มีข้อดีอย่างไร
– เป็นศูนย์ซ่อมที่ได้มาตรฐาน มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ละเอียดงานดีเรียบร้อย แยกการทำงานอย่างชัดเจน เช่น ช่างซ่อมเครื่องยนต์, ซ่อมช่วงล่าง ฯลฯ
– รับประกัน อะไหล่ ใหม่รองรับ ทั้งยังเป็นอะไหล่แท้ที่ส่งตรงมาจาก โรงงานรถยนต์ของคุณ
– ซ่อมห้าง อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะมีช่างเชี่ยวชาญเฉพาะอยู่ที่ศูนย์
ซ่อมห้าง มีข้อเสียอย่างไร
– ราคาค่อนข้างสูงกว่าซ่อมอู่ เพราะมีค่าภาษี และค่าแรงที่สูงกว่า
– อาจต้องรอคิวซ่อม และระยะเวลาในการซ่อมรถค่อนข้างนาน และบางครั้งระยะเวลาการซ่อมไม่แน่นอน
– อะไหล่บางอย่างไม่เสีย แต่ก็เปลี่ยน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น
– บางพื้นที่ก็ไม่มีศูนย์บริการ ทำให้ไม่สะดวกในการไปเคลมประกัน
“ซ่อมอู่” คืออะไร?
ซ่อมอู่ คือการนำรถไปเข้าอู่ซ่อมรถทั่วไปนั่นเอง ซึ่งยังแบ่งออกได้อีก 2 ประเภท คือ อู่ในเครือบริษัทประกัน และอู่นอกเครือบริษัทประกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
– อู่ในเครือบริษัทประกัน คืออู่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกันที่เราทำไว้ เวลาเรานำรถไปซ่อม หรือไปเคลมประกัน ก็สามารถนำรถเข้าไปซ่อมได้เลย และเมื่อซ่อมเสร็จ ก็นำรถออกมาได้ทันที โดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน หรือเสียเงินเพิ่มเติม (ในกรณี ที่ไม่ได้ซ่อมนอกเหนือจากที่ตกลงกับบริษัทประกันเอาไว้)
– อู่นอกเครือบริษัทประกัน คือ อู่ที่ไม่ได้อยู่ในการรับรองของบริษัทประกันที่เราทำไว้ ซึ่งอาจเป็นอู่ซ่อมรถใกล้บ้านคุณ หรือเป็นอู่ที่คุณรู้จักอู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐานใกล้ฉัน เป็นอู่ที่มีคนแนะนำว่าทำดี ฯลฯ ในกรณีซ่อมอู่ที่อยู่นอกเครือประกันแบบนี้ คุณต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน จากนั้นจึงนำใบเสร็จไปเบิกกับบริษัทประกันภายหลัง
“ซ่อมอู่” มีข้อดีอย่างไร
– ราคาเบี้ยประกันรถยนต์ที่เลือกซ่อมอู่ ถูกกว่าซ่อมห้าง หรือซ่อมศูนย์มาก
– มีอู่มากมาย อยู่ทั่วไป สามารถเลือกได้ อู่ซ่อมใกล้บ้าน หรืออู่ที่รู้จักมีความไว้ใจและน่าเชื่อถือ
– ซ่อมอู่ใช้เวลาซ่อมไม่นานมากนัก ไม่ต้องรอคิวนาน เหมือนซ่อมห้าง ซ่อมศูนย์
ซ่อมอู่ มีข้อเสียอย่างไร
– อะไหล่ ที่ใช้อาจไม่ใช่อะไหล่แท้ และบางครั้งอาจใช้อะไหล่ปลอมหรืออะไหล่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน มาเปลี่ยนให้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับฝีมือช่างอีกที
– บางอู่ซ่อมอาจไม่รับผิดชอบหรือแก้ไขปัญหาให้ ในกรณีที่ซ่อมแล้วเกิดปัญหาตามมา
– งานซ่อมอาจออกมาไม่ดี ไม่สวย สมบูรณ์ ฯลฯ
เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่า ซ่อมห้าง และ ซ่อมอู่ ต่างกันอย่างไร ก็คงช่วยให้ใครหลายคนตัดสินใจเลือกการ เคลมประกันรถยนต์ ได้ดียิ่งขึ้นว่า จะเคลมประกันรถยนต์แบบไหนดี จะเลือก ซ่อมอู่ หรือ ซ่อมห้าง โดยหลังจากที่ทำเรื่องเคลมประกันรถยนต์ และรถซ่อมเสร็จพร้อมกลับไปใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว ผู้ขับขี่ก็ควรขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท และอย่าลืม ทำประกันรถยนต์ หรือต่อประกันรถยนต์อยู่เสมอ เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุ ก็ยังมั่นใจได้ว่าจะได้ความคุ้มครองจากกรมธรรม์ ประกันภัยนั่นเอง
ใบเคลมประกันรถยนต์ คืออะไร สำคัญอย่างไร? อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน
ใบเคลมประกันรถยนต์จะมีความสำคัญขึ้นมาทันทีเมื่อรถยนต์ของคุณประสบอุบัติเหตุและต้องการเข้าซ่อม ใบเคลมประกันรถยนต์จะแสดงว่าบริษัทที่คุณเอาประกันภัยนั้นจะช่วยแบ่งเบาภาระความรับผิดชอบและความเสียหายที่เกิดขึ้นอะไรได้บ้าง ซึ่งบทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับใบเคลมประกันมีขั้นตอนอย่างไร ได้ใบเคลมแล้วทําไงต่อ
ใบเคลมประกันรถยนต์ คืออะไร ?
ใบเคลมประกันรถยนต์ หรือใบรับรองความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ผู้ขับขี่จะได้รับจากบริษัทประกันภัย เพื่อนำไปยืนยันกับศูนย์บริการซ่อมรถยนต์หรืออู่ในโครงการของบริษัทที่เอาประกันภัย ว่าบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นตามที่ระบุไว้ในใบเคลมประกัน (ยกเว้น ค่าเสื่อมสภาพของอะไหล่ชิ้นนั้นๆ เช่น แบตเตอรี่ หรือ ของเหลว)
สำหรับความคุ้มครองหากเป็นประกันภัยประเภท 1, 2+, 3+ ผู้เอาประกันจะได้รับใบเคลมประกันไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดในอุบัติเหตุครั้งนั้น ทั้งนี้ภายใต้เงื่อนไขข้อยกเว้นความคุ้มครอง แต่หากเป็นประกันภัยประเภท 2, 3 ผู้เอาประกันภัยจะได้รับใบเคลมประกันก็ต่อเมื่อรถคันที่เอาประกันเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น โดยจะได้รับจากบริษัทประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด
อ้างอิง : ใบเคลม(ประกันภัยรถยนต์) คืออะไร? สำคัญอย่างไร?
ขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์
- เมื่อเกิดเหตุควรแจ้งบริษัทประกันทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่สำรวจภัยตรวจสอบและประเมินความเสียหายอย่างละเอียด หากชนแบบมีคู่กรณีจะได้รับใบเคลมประกันที่ออกจากบริษัทที่เอาประกัน แต่หากชนแบบไม่มีคู่กรณี(เฉพาะประเภท 1) จะต้องโทรแจ้งเหตุกับบริษัทประกันให้มาตรวจสอบความเสียหายของรถตามที่ที่ผู้เอาประกันนัดหมาย หรือเข้าไปติดต่อที่อู่โดยตรง เพื่อกรอกแบบฟอร์มขอใบเคลมประกันรถยนต์
- ยื่นเอกสารที่ใช้สำหรับการเคลมประกันรถยนต์ได้แก่
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ใบขับขี่ หรือสำเนา
- เล่มทะเบียนรถยนต์ หรือสำเนา
- สำเนากรมธรรม์ประกันภัย
- ใบรับรองความเสียหาย หรือใบเคลมประกันที่ทางบริษัทประกันภัยออกให้
- หลังจากได้ใบเคลมแล้วทำไงต่อ? จากนั้นสามารถนำรถเข้าอู่หรือศูนย์ซ่อมในเครือของบริษัทที่เอาประกันก่อนเพื่อให้ตรวจสอบบาดแผลต่อเนื่องรวมถึงเตรียมการสั่งอะไหล่ และนัดวันเอารถเข้าซ่อมได้
- รับใบรับรถ เพื่อให้ทราบรายละเอียดในการซ่อม หลักฐานต่าง ๆ ในการเคลมประกัน ซึ่งในวันที่รถซ่อมเสร็จจะต้องนำใบรับรถมายื่นให้เจ้าหน้าที่
5.เก็บใบเสร็จไว้ก่อน เพื่อเป็นหลักฐานการเข้าซ่อม หากเกิดปัญหาการซ่อมที่ไม่ได้มาตรฐานในภายหลัง
สิ่งที่ต้องรู้ อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน เกี่ยวกับใบเคลมประกันรถยนต์หาย ทำอย่างไร? มีอายุกี่ปี?
อายุใบเคลมประกันรถยนต์
ใบเคลมประกันจะมีอายุ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่บริษัทประกันรถยนต์ออกเอกสารใบรับรองความเสียหายหรือใบเคลม ดังนั้น หลังจากเคลมจะสามารถนำรถยนต์เข้าซ่อมเมื่อไหร่ก็ได้ ภายในระยะเวลา 2 ปีนี้ หากเป็นฝ่ายถูกแนะนำให้เคลมภายใน 1 ปี เพื่อจะได้ไม่เสียสิทธิในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
ใบเคลมประกันรถยนต์หายทำอย่างไร
ต้องแจ้งความลงบันทึกประจำวันก่อนว่าเอกสารใบเคลมหาย และโทรติดต่อบริษัทประกันภัย เพื่อขอสำเนาใบเคลมในการนำไปใช้ซ่อมรถได้ตามปกติ
“เอกสารใบเคลมหาย“ ใบเคลมหาย อย่าเพิ่งตกใจ
ควรทำยังไงไปดูกัน!
- โทรติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อขอเลขที่ใบเคลม
- แจ้งความเอกสารหาย
- ติดต่อบริษัทประกันภัยอีกครั้งเพื่อขอสำเนาใบเคลม
- นำสำเนาใบเคลมไปใช้ซ่อมรถได้ตามปกติ
อ้างอิง : เกร็ดความรู้ตอน ”เอกสารใบเคลมหาย“
เมื่อไหร่ก็ตามที่ถึงเวลาต้องพึ่งพาประกันให้ช่วยแบ่งเบาภาระ เมื่อนั้นคุณจะเห็นได้ว่าโชคดีแค่ไหนที่ได้เลือกประกันภัยรถยนต์ดี ๆ ไว้กับตัว ที่นี่ 724 เราช่วยให้คำปรึกษาและหาประกันที่ถูกใจให้กับคุณ เพราะเราเปรียบเทียบมาไว้ให้แล้วในเว็บไซต์แค่คลิกก็เลือกซื้อประกันได้เลยไม่ยุ่งยาก คลิก ที่นี่ได้
เคลมสด กับเคลมแห้ง คืออะไรต่างกันอย่างไร? อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน ประกันภัยดีดีมีคำตอบ
เคลมสด กับเคลมแห้ง คืออะไรต่างกันอย่างไร?
การเคลมประกันนั้นในภาษาพูดมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือเคลมสดและเคลมแห้ง และเรามักได้ยินบ่อย จนอดสงสัยไม่ได้ว่า เอ้ะ มันต่างกันยังไงกันนะ? วันนี้เรามีคำตอบ ลองมาอ่านกันดูดีกว่า
เคลมสด : เคลมสด คือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วแจ้งเคลมทันที ณ เวลานั้น โดยมีเจ้าหน้าที่ประกันอยู่ด้วย ซึ่งจะเป็นคนทำเรื่องและจดข้อมูลต่างๆ ให้ และจะเกิดขึ้นในเคสที่เป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี หรืออุบัติเหตุร้ายแรง ซึ่งการเคลมสดนั้นอาจมีค่าใช้จ่ายค่าเสียหายส่วนแรกหรือ Excess ด้วย โดยเคลมสดจะใช้เวลาการตรวจสอบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการแจ้งเหตุทันทีหลังเกิดเหตุนั่นเอง
เคลมแห้ง : ตรงข้ามกับเคลมสด คือ เป็นการแจ้งความเสียหายกับประกันหลังจากเกิดอุบัติเหตุไปแล้วพักใหญ่ ส่วนมากเป็นกรณีทีความเสียหายน้อย และส่วนมากเป็นความเสียหายที่ไม่มีคู่กรณี ซึ่งการเคลมแห้ง เราจะต้องเป็นคนถ่ายรูป และเก็บรายละเอียดต่างๆ ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะส่งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ประกันทำการตรวจสอบและชดเชยค่าเสียหายให้
สรุปสั้นๆ แบบเข้าใจง่าย การเคลมสดและเคลมแห้งแตกต่างกันตรง “ระยะเวลาในการแจ้งบริษัทประกันภัย” ถ้ามีเหตุร้ายแรงฉุกเฉินเกิดอาการบาดเจ็บ ก็ควรเรียกเจ้าหน้าที่เพื่อมาเคลมสดเลยในตอนนั้น และอย่าลืมขอข้อมูลที่จำเป็นในการติดต่อของพนักงานที่มาเคลมด้วย เพื่อความสะดวกในการติดตามเรื่องภายหลัง ส่วนอุบัติเหตุเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยขูดหรือบุบเล็กน้อย จากการขับเฉี่ยวชนแบบเบาๆ หลายคนก็เลือกที่จะเคลมแห้ง เพราะไม่อยากเสียเวลา ไม่มีอะไรเสียหายมากนัก และรถยังขับได้อยู่
แต่ไม่ว่าจะเป็นการเคลมรูปแบบไหนสิ่งสำคัญคือต้องแจ้งกับพนักงานทุกครั้งหรือหากไม่แน่ใจก็ลองโทรสอบถามไว้ก่อนดีกว่า เพื่อความสบายใจ และขั้นตอนการเคลมที่ถูกต้องไม่เสียเวลา แน่นอนว่าทางประกันภัยดีดี มีข้อมูลทุกอย่างเตรียมพร้อมให้คุณอ่านผ่านช่องทางเว็บไซต์ที่นี่ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดการทำประกัน และเงื่อนไขต่างๆ
รถเราแต่คนอื่นขับไปชน ประกันจะให้เคลมหรือไม่ ? อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน
รถเราแต่คนอื่นขับไปชน ประกันจะให้เคลมหรือไม่ ?
การทำ ประกันภัยรถยนต์ นอกจากจะมีประเภทต่าง ๆ ให้เลือกทำแล้ว ประกันภัยชั้น 1 ยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ประกันแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ และ ประกันแบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่
สำหรับการทำประกันภัยชั้น 1 แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ เหมาะกับผู้ที่ขับขี่อยู่เป็นประจำไม่เกิน 2 คน โดยต้องระบุชื่อ และอายุของผู้ขับขี่ โดยจะมีส่วนลดให้ 5 – 20% แต่ถ้าคนอื่นยืมรถไปขับแล้วเกิดอุบัติเหตุ คนขับเป็นฝ่ายผิด และไม่ใช่ชื่อที่ถูกระบุไว้ในกรมธรรม์ คุณยังสามารถ เคลมประกัน ได้ แต่จะถูกเรียกเก็บค่าความเสียหายส่วนแรก และค่าผิดเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่ถ้าคนอื่นที่ยืมรถไปเป็นฝ่ายถูก คุณจะได้รับความคุ้มครอง และเคลมได้ปกติ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
ส่วนประกันชั้น 1 แบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ คุ้มครอง และรับผิดชอบความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการใช้งาน หรือการขับขี่ของบุคคลใด ๆ ก็ตามที่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกัน สามารถเคลมได้ปกติ แต่ข้อเสียก็คือ จะไม่สามารถลดค่าเบี้ยประกันเหมือนการทำประกันแบบระบุชื่อผู้ขับขี่นั่นเอง
สุดท้ายนี้ อู่ซ่อมรถ เคลมประกันวิริยะ ไม่ว่าใครจะขับรถของคุณไปเกิดอุบัติเหตุ ประกันภัยยังคงให้ความคุ้มครอง แต่ก็ต้องเป็นไปตามข้อตกลง และเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่ถ้าขับรถแล้วไม่มีประกัน หรือกำลังมองหาประกันภัย คุณสามารถเข้ามาเช็กเบี้ย และทำประกันรถยนต์ กับ ประกันภัยดีดี ติดต่อเรา คลิก
เคลมสีรอบคัน ทำแล้วดีจริงเหรอ ?
เมื่อถึงเวลาประกันใกล้หมด หลายคนมักขอทำเรื่องเคลมประกันเพื่อทำสีใหม่ โดยเฉพาะรอยถลอก หรือรอยขีดข่วนจุดเล็ก ๆ เพราะอยากจะให้รถยนต์กลับมาดูดีอีกครั้ง แต่จริง ๆ แล้วการทำสีบ่อย ๆ หรือการขอเคลมสีรอบคันนอกจากจะถูกปรับค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีผลกระทบอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราขอนำเสนอในอีกแง่มุมหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลย
สีไม่เหมือนเดิม
หลังจากการทำสีใหม่คุณอาจสังเกตได้ว่า สีใหม่กับสีเดิมมีความแตกต่างกัน แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ยังไงก็ดูออก สาเหตุเป็นเพราะขั้นตอนการผสมสี ซึ่งต่อให้ช่างมีความชำนาญมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางผสมสีได้เหมือนที่โรงงานทำออกมา 100% อีกทั้งทางโรงงานทำเป็นระบบปิด ส่วนร้านทำสีแม้จะมีห้องพ่นสี แต่ก็ไม่ได้เป็นระบบปิด 100% ทำให้สีที่ออกมานั้นมีความต่างกัน
สีหลุดง่าย
หลังจากทำสีใหม่มาได้สักพัก คนส่วนใหญ่อาจจะเจอปัญหา สีลอก กรอบ แตก เป็นรอย ฯลฯ สาเหตุก็เพราะว่าร้านทำสีบางร้าน ช่างอาจไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ อีกทั้งสีที่ใช้อาจไม่ได้มาตฐาน เวลาเจอแดด ลม หรือฝนนาน ๆ จึงทำให้เกิดปฏิกิริยาดังกล่าวขึ้น ปัดโธ!
สีไม่เรียบเนียน
สีที่ทำออกมาอาจเป็นคลื่น มีฟอง ไม่ราบเรียบไปกับพื้นผิว สาเหตุเป็นเพราะร้านทำสีใช้คนในการพ่น โดยเฉพาะช่างที่มีประสบการณ์น้อย และไม่มีความชำนาญมากพอ การพ่นจึงไม่มีความแน่นอน พ่นบางบ้างหนาบ้าง หรือต่อให้ชำนาญมากแค่ไหน ก็ยังสู้ของโรงงานที่ใช้ระบบในการพ่นสีไม่ได้ ดีไม่ดีได้เสียเวลาเข้าไปแก้สีใหม่อีกหลายรอบแน่ ๆ
สุดท้ายนี้ สีที่ดีที่สุดคือสีที่พ่นออกมาจากโรงงาน เนื่องจากมีการควบคุมสภาพแวดล้อม ควบคุมทุกอย่างอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอน มันจึงมีความคงทน และทนทานมากกว่า เพราะฉะนั้นหากรถของคุณมีแผลเพียงเล็กน้อย ให้ไปหาซื้อปากกาแต้มสีมาใช้ปิดรอยเหล่านั้นไว้จะดีกว่า แต่ถ้ากลัวเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความคุ้มครอง ประกันรถยนต์ ตอบโจทย์คุณที่สุด และคุณสามารถทำกับ ประกันภัยดีดี ประกันออนไลน์ ได้ทางช่องทาง รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
.
สรุป
สำหรับท่าน ที่กำลังมองหา อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน อย่างที่เรารู้กันว่า ก่อนที่เราจะใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์ เราควรเช็คให้ดีว่าอู่ซ่อมรถนั้นมีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือและบริการที่ดีหรือไม่ รวมถึงกำหนดราคาซ่อมที่ชัดเจน ก็จะทำให้คุณไว้วางใจได้มากขึ้น พอรู้อย่างนี้แล้วเราก็ควร ทำประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อช่วยคุ้มครองค่าซ่อมรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
บริการซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่รถ ประกันภัยดีดี ก็จะดูแลให้เสมือนมีคนรู้ใจที่ดี แนะนำบริการเคลมที่สะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์คุณมากยิ่งขึ้น
หากว่าเราหมั่นตรวจเช็ครถยนต์ของเราอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยให้รถยนต์ของเรานั้นอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้เสมอ รวมถึงเราจะสามารถตรวจพบสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถของเรา และสามารถหาทางแก้ไขได้ทันก่อนที่จะเป็นเรื่องใหญ่ จนอาจจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากมายก็เป็นได้ ทั้งนี้การตรวจเช็คให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอก็จะเป็นการช่วยในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ของเราไปด้วย
เนื่องจากในทุกวันนี้ การใช้รถใช้ถนนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากผู้ใช้รถทุกคนต้องไม่ประมาทและควรระมัดระวังในการขับขี่แล้ว การทำประกันภัยรถนั้นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ท่านเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
.
คำถามที่พบบ่อย
- เลือกอู่ซ่อมรถที่มีมาตรฐานและปลอดภัย
- เลือกอู่ซ่อมรถที่ได้รับการรับรองจาก คปภ.
- เลือกอู่ซ่อมรถที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญ
- เลือกอู่ซ่อมรถที่มีการรับประกันหลังงานซ่อม
- เลือกอู่ซ่อมรถที่มีราคามาตรฐาน
เมื่อซื้อรถไปแล้ว ไม่อยากมีปัญหาด้านการซ่อมรถยนต์ ควรเลือกร้านซ่อมรถ หรืออู่ซ่อมรถที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ เพียงพอต่อความต้องการใช้บริการ ที่สำคัญต้องเจรจาง่าย เคลมสะดวก ซึ่งอู่ในลักษณะดังกล่าวโดยมากมักจะเป็นอู่ในเครือบริษัทประกันภัยที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้ เช่นเดียวกับอู่ซ่อมและศูนย์บริการ อู่ซ่อมรถในเครือ
“ซ่อมห้าง หรือ ซ่อมศูนย์”
เป็นศูนย์ซ่อมที่ได้มาตรฐาน มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ละเอียดงานดีเรียบร้อย แยกการทำงานอย่างชัดเจน เช่น ช่างซ่อมเครื่องยนต์, ซ่อมช่วงล่าง ฯลฯ
- รับประกัน อะไหล่ ใหม่รองรับ ทั้งยังเป็นอะไหล่แท้ที่ส่งตรงมาจาก โรงงานรถยนต์ของคุณ
- ซ่อมห้าง อู่ซ่อมรถยนต์ มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะมีช่างเชี่ยวชาญเฉพาะอยู่ที่ศูนย์
“ซ่อมห้าง หรือ ซ่อมศูนย์”
- ราคาค่อนข้างสูงกว่าซ่อมอู่ เพราะมีค่าภาษี และค่าแรงที่สูงกว่า
- อาจต้องรอคิวซ่อม และระยะเวลาในการซ่อมรถค่อนข้างนาน และบางครั้งระยะเวลาการซ่อมไม่แน่นอน
- อะไหล่บางอย่างไม่เสีย แต่ก็เปลี่ยน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น
- บางพื้นที่ก็ไม่มีศูนย์บริการ ทำให้ไม่สะดวกในการไปเคลมประกัน
“ซ่อมอู่” มีข้อดีอย่างไร
- ราคาเบี้ยประกันรถยนต์ที่เลือกซ่อมอู่ ถูกกว่าซ่อมห้าง หรือซ่อมศูนย์มาก
- มีอู่มากมาย อยู่ทั่วไป สามารถเลือกได้ อู่ซ่อมใกล้บ้าน หรืออู่ที่รู้จักมีความไว้ใจและน่าเชื่อถือ
- ซ่อมอู่ใช้เวลาซ่อมไม่นานมากนัก ไม่ต้องรอคิวนาน เหมือนซ่อมห้าง ซ่อมศูนย์
ซ่อมอู่ มีข้อเสียอย่างไร
- อะไหล่ ที่ใช้อาจไม่ใช่อะไหล่แท้ และบางครั้งอาจใช้อะไหล่ปลอมหรืออะไหล่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน มาเปลี่ยนให้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับฝีมือช่างอีกที
- บางอู่ซ่อมอาจไม่รับผิดชอบหรือแก้ไขปัญหาให้ ในกรณีที่ซ่อมแล้วเกิดปัญหาตามมา
- งานซ่อมอาจออกมาไม่ดี ไม่สวย สมบูรณ์ ฯลฯ
ดังนั้น ก่อนที่เราจะใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์ เราควรตรวจสอบให้ดีว่าอู่ซ่อมรถนั้นมีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือและบริการที่ดีหรือไม่ รวมถึงกำหนดราคาซ่อมที่ชัดเจน ก็จะทำให้คุณไว้วางใจได้มากขึ้น พอรู้อย่างนี้แล้วเราก็ควรทำประกันรถยนต์ เพื่อช่วยคุ้มครองค่าซ่อมรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นบริการซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่รถ ประกันรถยนต์ก็จะดูแลให้เสมือนมีคนรู้ใจที่ดี มีบริการเคลมที่สะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์คุณมากยิ่งขึ้น