- 30 สิงหาคม 2022
- ประกันภัยรถยนต์, ความรู้ประกันภัย
- 4033 Views
ประกันภัยดีดี.com
ต่อภาษี รถยนต์ออนไลน์ ง่าย สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย ไม่ต้องเดินทางไปขนส่ง
ในยุคปัจจุบันนี้ จะเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทุกอย่างถูกกำหนดด้วย ความรวดเร็ว สะดวกสบาย ไม่ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อน การ ต่อภาษี ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ที่ทุกคน ต้อง ต่อภาษีรถยนต์ ประจำปี และคนจำนวนมาก ต้องมารอกันเพื่อต่อภาษีรถหรือต่อทะเบียนรถ ซึ่งอาจทำให้เสียเวลาล่าช้า สำหรับคนที่มาทีหลัง ประกันภัยดีดี มีคำแนะนำดีดี ปัจจุบัน กรมการขนส่งทางบกได้มี การต่อภาษีรถออนไลน์ เพื่อให้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย ในยุค โควิดนี้ ด้วย และที่สำคัญต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ประกันภัยดีดี รวบรวมข้อมูลที่เข้าใจง่าย กระชับ เพื่อเตรียมความพร้อมไม่เสียเวลาทุกท่าน
สารบัญ
ในการ ต่อภาษี พ.ร.บ. และ ภาษีรถยนต์ แตกต่างกันอย่างไร ประกันภัยดีดีมีคำตอบ
พ.ร.บ.รถยนต์ คืออะไร?
“พ.ร.บ. รถยนต์” คือ หรือ เรียกกันว่า “ประกันภัยภาคบังคับ” เป็นประกันภัยภาคบังคับ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 บังคับให้รถยนต์ และจักรยานยนต์ ทำประกันนี้ หากไม่ทำจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หลังจากทำ พ.ร.บ. รถยนต์ ต้องเก็บรักษา หลักฐาน การมี พ.ร.บ. รถยนต์ไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการ และ พ.ร.บ. ยังเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องนำไปต่อภาษีรถยนต์ (ดูความคุ้มครอง คลิกที่นี่ )
ภาษีรถยนต์ คืออะไร?
“ภาษีรถยนต์” หรือ การต่อทะเบียนรถยนต์ “ป้ายวงกลม” คือ สิ่งที่กฎหมายบังคับให้เจ้าของรถยนต์ทุกคน จะต้องจ่ายเป็นประจำทุกปี โดยภาษีที่เราจ่าย หน่วยงานของรัฐจะนำไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงเส้นทางคมนาคม หากไม่ ต่อภาษีรถยนต์ ติดต่อกัน 3 ปี ขึ้นไป รถยนต์จะถูกระงับทะเบียน และต้องทำเรื่องขอจดทะเบียนใหม่จากกรมการขนส่งทางบก พร้อมกับคืนแผ่นป้ายทะเบียนเดิม และจะต้องเสียภาษีย้อนหลังตามจำนวนปีที่ไม่ได้เสียภาษีอีกด้วย การต่อภาษีรถยนต์ สามารถต่อล่วงหน้าได้ก่อนทะเบียนหมดอายุไม่เกิด 3 เดือน
ภาษีรถยนต์แต่ละประเภท
สำหรับรถยนต์แต่ละประเภทนั้นมีกำหนดอัตราค่าภาษี และวิธีจัดเก็บ คำนวณภาษีแตกต่างกันไป ดังนี้
จัดเก็บตามความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.) ได้แก่
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน
จัดเก็บเป็นรายคัน ได้แก่
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 100 บาท
- รถจักรยานยนต์สาธารณะ คันละ 100 บาท
- รถพ่วงของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 50 บาท
- รถพ่วง ประเภทอื่นๆ คันละ 100 บาท
- รถบดถนน คันละ 200 บาท
- รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร คันละ 50 บาท
จัดเก็บตามน้ำหนัก ได้แก่
- รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 คน
- รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด รถยนต์บริการ
- รถยนต์รับจ้าง
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รถลากจูง รถแทรกเตอร์ที่มิได้ใช้ในการเกษตร
การจัดเก็บภาษีรถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า
- หากเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ให้เก็บภีตามน้ำหนักของรถในอัตรารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
- กรณีเป็นรถประเภทอื่นให้จัดเก็บเป็นรายคันหรือจัดเก็บตามน้ำหนักในอัตราครึ่งหนึ่ง
ต่อภาษีรถยนต์ ราคา ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
ในส่วนของรถยนต์นั่ง ทั่วไป หรือ รถยนต์นั่ง ส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่งนั้น จะจัดเก็บภาษีตามความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.) ดังนี้
- ความจุกระบอกสูบ 600 ซี.ซี. แรก – ซี.ซี.ละ 50 บาท
- ความจุกระบอกสูบ 601 – 1,800 ซี.ซี. – ซี.ซี. ละ 50 บาท
- ความจุกระบอกสูง เกินกว่า 1,800 ซี.ซี. – ซี.ซี. ละ 00 บาท
หมายเหตุ – หากเป็นรถของนิติบุคคลที่มิได้เป็นผู้ให้เช่าซื้อ จะต้องเสียภาษีในอัตราสองเท่า
เอกสารในการใช้ ต่อภาษี รถยนต์ มีอะไรบ้าง? ประกันภัยดีดีมีคำตอบ
ต่อภาษีรถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง
- คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริงหรือสำเนา
- หลักฐานการทำประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอบผู้ประสบภัยจากรถ หรือที่เรียกว่า หาง พ.ร.บ.
- หากเป็นรถที่เข้าข่ายต้องตรวจสภาพให้นำเข้าตรวจกับสถานตรวจสภาพรถเอกชนให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งได้แก่
- รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป
- รถที่ติดตั้งแก๊สต้องมีหนังสือรับรองการตรวจสอบและทดสอบตามระยะเวลาที่กำหนด
ต่อภาษีรถยนต์ได้ที่ไหนบ้าง
- สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ(ไม่ว่ารถนั้นจะจดทะเบียนที่จังหวัดใดก็ตาม)
- ที่ทำการไปรษณีย์
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)
- ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการช็อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)
- จัดบริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
ต่อภาษีรถยนต์ มีขั้นตอนอย่างไร
สำหรับขั้นตอน ต่อภาษีรถยนต์ ประจำปีนั้น สิ่งแรกที่จะต้องเตรียมให้พร้อม คือ พ.ร.บ.รถยนต์ หากเป็นรถใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี และยังไม่มี พ.ร.บ. สามารถนำเอกสาร สำเนาทะเบียนรถ หรือเล่มจริง และสำเนาบัตรประชาชน ซื้อ พ.ร.บ.รถยนต์ ได้ที่จุดบริการต่างๆ เช่น บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ทั่วประเทศ, ตัวแทนประกันภัย และเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 ต่อภาษีรถยนต์ เกิน 7 ปี หากรถมีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจสภาพรถก่อน เมื่อมี พ.ร.บ. หรือใบตรวจสภาพรถเรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสาร ทั้งหมดดำเนินการชำระภาษีประจำปีได้ที่จุดให้บริการต่างๆ ได้เลย
ต่อภาษีรถออนไลน์
การต่อภาษีรถประจำปี ปัจจุบันมีหลากหลายวิธีมากขึ้น และการ ต่อภาษีออนไลน์ ก็จะเป็นช่องทางที่สร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้รถทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ต่อภาษีรถจักรยานยนต์ออนไลน์ โดยกรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้บริการชำระภาษีรถประจำปี ผ่านเว็บไซต์ e-service.dlt.go.th ซึ่งรวมการต่อ พ.ร.บ. และภาษีรถให้ ครบจบในที่เดียวด้วย คลิกเพื่อดู รายละเอียดได้ที่ “วิธีต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์”
ต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้กี่วัน
กรมการขนส่งทางบก ต่อภาษี กำหนดให้สามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ 90 วัน ก่อนครบอายุภาษี โดยเมื่อเตรียมเอกสารหลักฐานเรียบร้อยแล้ว สามารถเลือกใช้บริการช่องทางต่างๆ ได้โดยมีเงื่อนไข คือ
- หากเป็นรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี และจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ไม่มีภาษีค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 1 ปี สามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่นๆ ได้ทันที
- ส่วนรถที่เข้าข่ายต้องตรวจสภาพก่อนชำระภาษี แนะนำให้ใช้บริการเลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax),บริการช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax) ที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์ – อาทิตย์, ที่ทำการไปรษณีย์ หรือธนาคารที่ร่วมโครงการกับกรมการขนส่งทางบก หรือที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ
ต่อภาษีรถยนต์ช้า ค่าปรับเท่าไหร่
การชำระภาษีรถประจำปีล่าช้า จะมีค่าปรับในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน และหากขาดการติดต่อกันเกิน 3 ปี จะส่งผลให้ทะเบียนรถถูกระงับทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียน อย่างเช่น การโอนเปลี่ยนชื่อ แจ้งเปลี่ยนสี แก้ไขรายการคู่มือรถได้ ข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก
รถประเภทไหนบ้าง ที่ไม่สามารถตรวจสภาพได้ที่ ตรอ.ของเอกชน ก่อนที่จะ ต่อภาษี
รถบางประเภทที่ไม่สามารถตรวจสภาพได้ที่ ตรอ. ของเอกชน ต้องนำไปให้นายทะเบียนตรวจสภาพที่หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น ได้แก่
- รถที่ดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่ได้จดทะเบียนไว้
- รถที่เปลี่ยนสี หรือเปลี่ยนแปลงตัวรถ ส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไป จากรายการที่จดทะเบียนไว้ในสมุดคู่มือทะเบียนรถ (เช่น เปลี่ยนเครื่องยนต์ เปลี่ยนลักษณะรถ เปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น)
- รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถ หรือเลขเครื่องยนต์ (เช่น ไม่ปรากฎตัวเลข ตัวเลขชำรุด หรือมีร่องรอยการแก้ไข ขูด ลบ หรือลบเลือน จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ เป็นต้น)
- รถที่เจ้าของได้แจ้งการไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดไปไว้
- รถเก่าที่มีเลขทะเบียนเป็นเลขทะเบียนรุ่นเก่า (เช่น กท – 00001, กทจ – 0001 เป็นต้น) ซึ่งรถดังกล่าวต้องเปลี่ยน ทะเบียนรถใหม่เมื่อมีการนำมาเสียภาษีประจำปี
- รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับการถูกโจรกรรมแล้วได้คืน
- รถที่ได้สิ้นอายุภาษีประจำปี (ขาดต่อทะเบียน) เกิน 1 ปี
ขั้นตอนในการ ต่อภาษี ออนไลน์ สำหรับรถยนต์ ทำอย่างไร
ขั้นตอนในการต่อภาษีออนไลน์ สำหรับรถยนต์เกิน 7 ปี ดั้งนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ E-Service กรมขนส่งทางบก คลิก
- เลือกบริการ ลงทะเบียนสมาชิกใหม่ สำหรับคนที่ยังไม่เคยยื่นชำระภาษีออนไลน์
- เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อย ให้ใส่หมายเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่านที่ตั้งไว้ จากนั้น กด เข้าสู่ระบบ
- เลือกบริการ ชำระภาษีรถประจำปี และเลือก ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต
- กรอกข้อมูลการลงทะเบียนรถ โดยให้ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับรถ (ประเภทรถยนต์ จังหวัด เลขทะเบียน)แล้วกด ลงทะเบียนรถ
- จากนั้นกรอกข้อมูล พ.ร.บ. ในกรณีที่ซื้อแล้ว ให้เลือกมีแล้ว แต่ถ้าหากต้องการซื้อ พ.ร.บ. ออนไลน์ ก็สามารถทำได้ในขั้นตอนนี้เช่นกัน
- จากนั้นเลือก กรอกที่อยู่ส่งเอกสาร โดยใส่ข้อมูลให้ครบถ้วน แยื่นชำระภาษีออนไลน์
- กรอกข้อมูลบัตรประชาชน ตั้งรหัสผ่าน ที่อยู่ปัจจุบันหรือที่อยู่ส่งเอกสาร เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล จากนั้นกด บันทึก กดเลือก วิธีการชำระเงิน
- สำหรับ รูปแบบการชำระเงิน จะมีให้เลือกจ่ายหลายช่องทาง ทั้งหักบัญชี ธนาคาร, ชำระผ่านบัตรเครดิต,ชำระผ่านเคาน์เตอร์บริการ จากนั้น กด ตกลง
- ตรวจสอบข้อมูลการชำระเงิน และตรวจสอบข้อมูลที่อยู่จัดส่งเอกสารจากนั้น กด ยืนยัน
- กรณีชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์บริการ ให้พิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถ และนำไปชำระที่มีป้าย Counter Service หรือตู้ ATM ของธนาคารที่ร่วมโครงการ หรือนำมาสแกนจ่าย ในแอปธนาคาร ที่เข้าร่วมโครงการ
- หลังชำระเงินเรียบร้อยแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะส่งใบเสร็จรับเงิน เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และกรมธรรม์ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถมาให้ ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้ ซึ่งป้ายภาษีติดหน้ารถ จะใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 3 วันทำการ
เพียงเท่านี้ ต่อภาษีออนไลน์ 2565 การต่อภาษี ประจำปี ก็ไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับรถที่มีอายุใช้งาน เกิน 7 ปีขึ้นไป ซึ่งกรณีของรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ก็สามารถชำระ ภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นเดียวกัน
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเงื่อนไขในการ ต่อภาษี เว็บไซต์ออนไลน์ มีอะไรบ้าง?
ประเภทรถที่สามารถต่อภาษีได้
– รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะส่วนบุคคล
– รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
เงื่อนไขในการต่อภาษี
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถ แต่หากรถยังอยู่ในช่วง เช่าซื้อกับไฟแนนซ์ แนะนำใช้สำเนาทะเบียนรถ
- ในกรณีที่เป็นรถยนต์ที่จดทะเบียนเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานต์ที่จดทะเบียนเกิน 5 ปี จะต้องไปตรวจสภาพรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) เพื่อขอใบตรวจสภาพรถยนต์
- หากเป็นรถติดแก๊ส ต้องนำเอกสารรับรองการติดตั้งแก๊ส และตรวจสภาพจากวิศวกรแนบมาด้วย ในกรณีที่ติดตั้ง ระบบ LPG สามารถอยู่ได้ 5 ปีต่อการตรวจสภาพ 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นระบบ CNG จำเป็นต้องตรวจสภาพทุกปี
- จะต้องทำ หรือต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถก่อน จึงจะสามารถต่อทะเบียนรถยนต์ได้ ถ้ายังไม่ต่อ สามารถทำออนไลน์ที่ เว็บไซต์ ของกรมการขนส่ง ได้ด้วยเช่นกัน
- รถที่ค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี
สรุป
ต่อภาษี รถยนต์ ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ ของทางกรมการขนส่งทางบก นั้น สะดวกและง่าย ปลอดภัย ไม่ต้องเดินทางไกล หรือออกจากบ้าน ไปที่กรมขนส่งฯ ก็สามารถต่อภาษีรถยนต์แค่ได้ “คลิก” เมื่อชำระภาษีรถผ่านอินเตอร์เน็ต โดยที่ต้องทำการลงทะเบียนเพื่อขอรหัสผ่านก่อนเบื้องต้น ถึงจะสามารถทำการต่อทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ได้ สามารถทำได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การลงทะเบียนทำได้อย่างราบรื่น และรวดเร็ว ไม่ติดขัด อย่าลืมเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนเข้าเว็บไซต์ เช่น เตรียมสมุดเล่มทะเบียน หรือกรมธรรม์ พ.ร.บ. เอาไว้ให้พร้อม เพื่อจะได้กรอกรายละเอียดทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน และสามารถชำระเงินต่อภาษีได้ในทันที จะเห็นได้ว่า การทำธุรกรรมผ่านระบบ ออนไลน์ หรือ E-Service ในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงการ ต่อภาษีรถยนต์ แบบไร้การสัมผัสนั้น เป็นเรื่องที่ช่วยให้เราไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านไปรับความเสี่ยงต่างๆ จาก ภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ และทำได้ง่าย รวดเร็วอีกด้วย หรือ ติดต่อเราได้ที่นี่
คำถามที่พบบ่อย
ต่อภาษีรถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง
- คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริงหรือสำเนา
- หลักฐานการทำประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอบผู้ประสบภัยจากรถ หรือที่เรียกว่า หาง พ.ร.บ.
- หากเป็นรถที่เข้าข่ายต้องตรวจสภาพให้นำเข้าตรวจกับสถานตรวจสภาพรถเอกชนให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งได้แก่
- รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป
- รถที่ติดตั้งแก๊สต้องมีหนังสือรับรองการตรวจสอบและทดสอบตามระยะเวลาที่กำหนด
ต่อภาษีรถยนต์ได้ที่ไหนบ้าง
- สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ(ไม่ว่ารถนั้นจะจดทะเบียนที่จังหวัดใดก็ตาม)
- ที่ทำการไปรษณีย์
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)
- ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการช็อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)
- จัดบริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
กรมการขนส่งทางบก ต่อภาษี กำหนดให้สามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ 90 วัน ก่อนครบอายุภาษี
ต่อภาษี รถยนต์ ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ ของทางกรมการขนส่งทางบก นั้น สะดวกและง่าย ปลอดภัย ไม่ต้องเดินทางไกล หรือออกจากบ้าน ไปที่กรมขนส่งฯ ก็สามารถต่อภาษีรถยนต์แค่ได้ “คลิก” เมื่อชำระภาษีรถผ่านอินเตอร์เน็ต โดยที่ต้องทำการลงทะเบียนเพื่อขอรหัสผ่านก่อนเบื้องต้น ถึงจะสามารถทำการต่อทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ได้ สามารถทำได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การลงทะเบียนทำได้อย่างราบรื่น และรวดเร็ว ไม่ติดขัด อย่าลืมเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนเข้าเว็บไซต์ เช่น เตรียมสมุดเล่มทะเบียน หรือกรมธรรม์ พ.ร.บ. เอาไว้ให้พร้อม เพื่อจะได้กรอกรายละเอียดทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน และสามารถชำระเงินต่อภาษีได้ในทันที จะเห็นได้ว่า การทำธุรกรรมผ่านระบบ ออนไลน์ หรือ E-Service ในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงการ ต่อภาษีรถยนต์ แบบไร้การสัมผัสนั้น เป็นเรื่องที่ช่วยให้เราไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านไปรับความเสี่ยงต่างๆ จาก ภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ และทำได้ง่าย รวดเร็วอีกด้วย เพิ่มความมั่นใจ ติดต่อเราที่นี่