ดูแลรถยนต์ คันโปรดอย่างไร เพื่อให้ใช้งานได้นาน และใหม่อยู่เสมอ

ดูแลรถยนต์

ประกันภัยดีดี.com

ดูแลรถยนต์ คันโปรดอย่างไร เพื่อให้ใช้งานได้นาน และใหม่อยู่เสมอ

ในปัจจุบันนี้  รถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้กันเยอะมากเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งการ ดูแลรถยนต์ บำรุงรักษารถคันโปรดของคุณมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เราอาจจะเคยเห็นรถบางคันที่มีอายุพอสมควรแล้ว ทำไม ยังใช้งานได้ดี ผิดกับบางคันที่รถยนต์ยังใหม่อยู่ แต่ก็พบกับปัญหาต่างๆ มากมาย สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากขาดการดูแลอย่างถูกต้องนั่นเอง  วันนี้ ประกันภัยดีดี รวบรวมข้อมูลที่เข้าใจง่าย กระชับ เพื่อเตรียมความพร้อมเสมอ มีวิธีเบื้องต้น ดูแลรถยนต์ หน้าฝน คันโปรดของท่าน ให้ใช้ได้นาน และใหม่อยู่เสมอ การดูแลรักษาตรวจเช็คเครื่องยนต์ด้วยตัวเองถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการยืดอายุการใช้งานรถของคุณ

เคล็ดลับ ดูแลรถยนต์  ให้ใหม่อยู่เสมอ อย่างไร? ประกันภัยดีดีมีคำตอบ

วิธีดูแลรถให้ใหม่อยู่เสมอ

  1. ขับขี่อย่างนุ่มนวล

การขับขี่รถอย่างนุ่มนวล ทั้งการออกตัวเร็ว และการเว้นระยะเบรค อย่างเหมาะสม ไม่เพียงช่วยรักษาความสมบูรณ์ของตัวรถให้คงอยู่ยาวนานเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย

  1. ล้างรถสัปดาห์ละครั้ง

การล้างรถช่วยให้ตัวรถดูสะอาดน่าใช้ พร้อมกับชำระล้างสิ่งสกปรกที่อาจมีฤทธิ์กัดกร่อนและฝังอยู่ในร่องที่เรามองไม่เห็นควรทำความสะอาดในห้องโดยสารให้สะอาจด้วยเช่นกัน พรมปูพื้นควรนำออกมาล้างและตากแดดเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้เกิดสิ่งหมักหมม เป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจ ไม่ควรลืมลงแว็กซ์รถให้ทั่วเพื่อรักษาคุณภาพสีรถให้สวยงาม

  1. จอดรถในร่ม

พยายามหาที่จอดรถในร่ม เพื่อรักษาสีของตัวรถและปกป้องห้องโดยสารจากแสดงแดที่แผดเผาของบ้านเรา ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แจใช้แผงกันแดดปิดบังคอนโซลไว้เพื่อป้องกันความเสียหายของวัสดุพลาสติก

  1. เช็ครถระยะสม่ำเสมอ

ความสำคัญของการเข้าเช็คระยะตามกำหนด คือการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและตรวจสอบชิ้นส่วน สำคัญต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นทั้งกับรถใหม่และรถมือสอง ช่วยยืดอายุการใช้งานตัวรถและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

  1. ดูแลยางรถยนต์

ตรวจสอบแรงดันลมยาง อย่างสม่ำเสมอโดยเติมลมยางตามคู่มือรถ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งไม่เพียงจะให้ความปลอดภัยในการขับขี่เท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดน้ำมันด้วย

  1. ล้างห้องเครื่องยนต์

ล้างห้องเครื่องยนต์อย่างน้อยปีละครั้ง เพราะเครื่องยนต์ที่สะอาดจะมีอุณหภูมิการทำงานที่ต่ำกว่าเครื่องยนต์ที่สกปรก การดูแลเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถตรวจสอบได้ง่ายว่ามีชิ้นส่วนใดเสียหายบ้างโดยอาจทำความสะอาดด้วยตนเองก็ได้ แต่ควรระมัดระวังชิ้นส่วนสำคัญอย่างกรองอากาศ สายไฟ ละชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับ ระบบอิเล็กทรอนิกส์

  1. เปลี่ยนหัวเทียน

หลายค่ายรถ แนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนทุก 50,000 กม. ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะเครื่องยนต์

  1. ดูแลรักษาแบตเตอรี่

ถึงแม้แบตเตอรี่ในรถของคุณจะเป็นแบบ  Maintenance รถใหม่ free หรือไม่จำเป็นต้องดูแลรักษา แต่ก็ควรตรวจสอบสภาพตัวแบตเตอรี่ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยควรทำความสะอาดให้ใหม่อยู่ตลอดเวลา และตรวจดูว่ามีความเสียหายใดๆ หรือ ไม่

สารบัญ

ดูแลรถยนต์

เกร็ดความรู้เบื้องต้น ในการบำรุงรักษา ดูแลรถยนต์ คันโปรดของคุณ ประกันภัยดีดีมีคำตอบ

การบำรุงรักษารถยนต์คันโปรดของคุณ เบื้องต้นด้วยตัวเอง มีอะไรบ้าง

  • ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง

การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง เริ่มแรกต้องอุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานก่อน แล้วดับเครื่อง จากนั้น จึงจะทำการเช็คระดับน้ำมันเครื่องได้ โดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง วัดหลังดับเครื่องแล้ว 1-3 นาที จากนั้นดึงก้านวัดน้ำมันออกมา เสร็จแล้วเช็ดน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้าให้สะอาด เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องคืนกลับจุดเดิม ปิดท้ายด้วยการดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจดูระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่าง “F”  กับ “L” แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ

  • การตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็น

สำหรับรถที่ใช้งานปกติ ระดับน้ำหล่อเย็นควรมีการตรวจสอบอย่างน้อย สัปดาห์ละครั้ง การตรวจเช็คทำได้ง่ายๆ โดยตรวจดูระดับน้ำหล่อเย็นในถังพักขณะเครื่องเย็นลง แล้วระดับน้ำหล่อเย็นควรอยู่ระหว่างขีดระดับเต็ม “FULL. และ ขีดระดับต่ำ “LOW” ในกรณีที่ระดับน้ำหล่อเย็นต่ำกว่าขีด “LOW” ให้เติมน้ำยาหล่อเย็นจนถึงขีดระดับ “FULL”  หากระดับน้ำหล่อเย็นลดลงถึงขีด “LOW” อีก หรือถ้าระดับน้ำหล่อเย็นลดลงผิดปกติหลังจากเติมเสร็จแล้ว แสดงว่าอาจเกิดการรั่วซึมภายในระบบ ให้รีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขต่อไป

Tips

– ไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นที่ถังพักน้ำหล่อเย็นเท่านั้น

– ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำ ในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัดเพราะจะได้รับอันตรายจากไอน้ำที่พุ่งออกมา

– ควรใช้น้ำยาหล่อเย็นชนิดเดียวกับที่เติมอยู่ก่อนแล้ว เพราะน้ำยาหล่อเย็นต่างสูตร เมื่อผสมกัน อาจทำปฏิกิริยาต่อกันจนเป็นผลให้เสื่อมคุณภาพได้

– ไม่ควรเติมน้ำประปาเพราะจะทำให้เกิดสนิมในระบบ

  • ตรวจเช็คยาง

ควรเช็คแรงดันลมยางอยู่เสมอๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ถ้าลมยางอ่อนผิดปกติ ลองตรวจสอบดูรอยรั่วจากตะปูดำหรือรอยฉีกขาดและไม่ลืมดูว่าตอกยางสึกไปมากน้อยเพียงไรแล้ว

  • ตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝน

ยางปัดน้ำฝน ดูแลรถยนต์ หน้าฝน เมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ก็อาจมีการเสื่อมสภาพ เนื่องมาจากผิวสัมผัส ส่วนปลายมีการสึกหรอหรือมีสิ่งสกปรก เช่น เศษหิน ทราย ขนาดเล็ก ติดอยู่ระหว่างยางใบปัดกับกระจกทำให้ยางปัดน้ำฝนสึกได้ นอกจากนี้ ยังไม่สามารถสังเกต สภาพของที่ปัดน้ำฝนได้จากลักษณะการปัดได้ด้วย โดยปัดไม่สะอาจหรือมีเสียงดัง แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว

  • ตรวจเช็คแบตเตอรี่

ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ควร ส่วนแบต Maintenance Free ควรเปลี่ยนทุก 2 ปี และหากสตาร์ทติดยาก และเป็นแบตที่ใช้อายุนานเกินสองปี สันนิษฐานได้เลยว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดอายุแล้ว เพียงแค่เรายอมสละเวลาและหันมาใส่ใจรถบ้าง รถของเราก็จะมีอายุใช้งานยาวนานขึ้น แถมยังช่วยป้องกันเหตุไม่คาดฝันจากความไม่พร้อมของรถได้ด้วย

5 วิธี ดูแลรถยนต์ ของคุณ หากจอดทิ้งไว้นาน

วิธีดูแลรถยนต์ของคุณ กรณีจอดทิ้งไว้นาน

  • ดูแลแบตเตอรี่ สตาร์ทรถบ้าง

การจอดรถทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆ เป็นสัปดาห์หรือหลายเดือน โดยไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์เลย ส่งผลให้แบตรถยนต์เสื่อมสภาพไว และแบตเตอรี่รถหมดได้ อย่าลืมว่าระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในรถ เช่น วิทยุ หรือสัญญาณกันขโมย ยังต้องใช้ไฟจากแบตเตอรี่หล่อเลี้ยงการทำงานอยู่ตลอดเวลา แม้จะไม่ได้สตาร์ทรถก็ตาม  เพื่อป้องกันรถแบตหมด ควรสตาร์ทรถบ้าง อย่างน้อยๆ ทุกๆ 2 วัน หรือทุกอาทิตย์ ติดเครื่องทิ้งไว้ครั้งละประมาณ 10-15 นาที หรือเอารถออกไปขับให้ได้ระยะทางหลายๆ กิโลเมตรสักหน่อย เพื่อชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ เพื่อให้ชิ้นส่วนต่างๆ ภายในรถได้เคลื่อนไหวบ้าง ไม่งั้นพอจะใช้งาน แบตรถยนต์หมด ต้องเสียเวลามาชาร์ทแบตเตอรี่อีก

  • ตรวจเช็คลมยางเติมลมยาง

รถที่ถูกจอดทิ้งไว้นานๆ เรื่องของแรงดันลมยาง ก็ถือได้ว่าเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะว่าเมื่อรถของเราจอดไว้นาน โดยธรรมชาติแล้วแรงดันอากาศที่อยู่ภายในยางรถของเรานั้นจะค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลา ซึ่งก่อนจะนำรถไปจอดทิ้งไว้ เราต้องเติมลมยางให้อยู่ในค่ามาตรฐานของรถ โดยสามารถดูได้ตามคู่มือการใช้งานของรถหรือดูจากขอบประตูของรถตรงบริเวณฝั่งคนขับ และถ้าหากมีการใช้น้ำยาขัดเงาที่แก้มยางก็จะยิ่งช่วยทำให้รักษาสภาพของแก้มยางไม่ให้แตกลายงาได้อีกด้วย  หมั่นเติมลมยางรถยนต์ และเติมลมยางกระบะอยู่เสมอ การดูแลรถกระบะ ให้พร้อมใช้งาน แต่ถ้าคิดว่าไม่ได้ใช้รถนานจริงๆ ก็หาแม่แรง หรือสามขามายกรถไว้เลยก็ได้ ป้องกันยางเสียสภาพ

  • จอดรถในที่เหมาะสม และล้างรถบ้าง

เมืองไทยขึ้นชื่อว่า เป็นเมืองที่อากาศร้อน ที่จะทำให้วัสดุส่วนที่เป็นยาง หนัง หรือพลาสติกต่างๆ รอบคันรถกรอบแตก เสื่อมสภาพได้ และยังทำลายสีรถแลคเกอร์ที่เคลือบไว้ลอก ทำให้สีซีดได้ จึงควรเก็บรถไว้ในที่ร่ม ถ้ามีผ้าคลุมรถก็คลุมไว้แล้วหาโอกาสล้างรถบ้าง เพื่อรักษาสีรถ และควรหลีกเลี่ยงการจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นมะม่วง ต้นจามจุรี ต้นไทร หรือต้นหูกวาง ฯลฯ เนื่องจากกิ่งไม้ ฝัก เมล็ด หรือยางไม้ อาจหักหรือหล่นมาโดนรถ รวมไปถึงขี้นกด้วย และการจอดในบริเวณพงหญ้าและจุดทิ้งขยะ ก็มีโอกาสที่มด แมลงสาบ จิ้งจก หรือหนู บุคยึดส่วนต่างๆ ของรถคุณได้

  • ไม่ดึงเบรคมือ

รถที่จอดนานๆ ไม่ควรดึงเบรคมือค้างไว้ เพราะเบรคอาจติดได้ และอาจเจอปัญหาขยับรถไม่ได้ หากต้องการไม่ให้รถไหล ใช้บล็อค หรือวัสดุอื่นที่ไม่ทำความเสียหายกับยางรถยนต์วางไว้แทน

  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เติมน้ำมันให้เต็มถัง

น้ำมันเครื่องที่ใช้งานมาแล้ว มักมีสิ่งปนเปื้อน เศษเหล็กเศษผงต่างๆ ในอ่างน้ำมันเครื่อง และมีสภาพเป็นกรด อาจทำลายชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ได้ ถ้าจอดรถนานนับเดือนขึ้นไป ลงทุนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ดีกว่า และอย่าลืม หาโอกาสเติมน้ำมันให้เต็มถังไว้ เพราะป้องกันความชื้นที่จะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำได้ และช่วยป้องกันการเกิดสนิมภายในถังน้ำมัน (กรณีรถรุ่นเก่าๆ ที่ถังน้ำมันเป็นแบบโลหะ)

การดูแลรถยนต์ จะมีข้อสำคัญในการใส่ใจดูแลหลักๆ ที่กล่าวมา ไม่ว่า การดูแลรักษารถยนต์ 15 ข้อ หรือ ในมุมมองความคิด บางท่าน ก็จะละเอียดอ่อนในการดูแลรถคันโปรด ก็จะ นึกถึงความสำคัญทุกๆ จุด ในแต่ละข้อ รวมๆ กัน ของรถคันโปรด เพื่อให้คงสภาพใหม่เสมอ นั่นก็จะเป็นสิ่งที่ดี ในการเอาใจใส่ดูแลตลอดเวลา

ดูแลรถยนต์

เคล็ดลับการ ดูแลรถยนต์ สำหรับผู้หญิง  มีอะไรบ้าง? ประกันภัยดีดีมีคำตอบ

เคล็ดลับการดูแลรักษารถยนต์สำหรับผู้หญิง

คนส่วนใหญ่ที่ดูแลรถจะรู้กันดีว่า รถที่ผู้หญิงขับ จะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการ ดูแลรถยนต์ มากนัก และเคล็ดลับดีๆ นี้ สามารถนำไปใช้เป็นหลัก ผู้หญิงดูแลรถ ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือรู้ว่าเวลารถผิดปกติเกิดจากอะไรจะได้บอกช่างรู้เรื่อง ว่ามีอะไรบ้าง  ส่วนประกอบหลักที่ต้องดูแลหลักๆ มีสามอย่าง ภายนอก ภายในและในห้องเครื่อง ซึ่งแต่ละอย่างมีส่วนประกอบ เล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องใส่ใจดูแล

  1. ภายนอกตัวถัง

ภายนอกตัวถังรถก็คือทุกอย่างที่เรามองเห็นจากภายนอกนั่นเอง ซึ่งมีหลายอย่างที่จำเป็นจะต้องดูให้ใช้งานได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่เสมอเพราะมันเกี่ยวกับความปลอดภัย

ตัวถังและสี

การดูแลตัวถังและสีไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทุกคนไม่ว่าจะขับรถเป็นหรือไม่ก็น่าจะคุ้นเคยดี นั่นคือการ หมั่นทำความสะอาด มีการลงแว็กซ์ขัดเคลือบสีเป็นระยะ จะเข้าร้านล้างรถ หรือจะล้างด้วยตัวเองก็ได้ ขั้นต้นก็คืออย่าปล่อยให้มีสิ่งสกปรก เช่น ดินโคลน ขึ้นเกาะตัวรถเป็นเวลานาน ไม่ควรข้ามวัน เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบล้างออก เพื่อถนอมสีรถให้สดใสอยู่ได้นาน ส่วนริ้วรอยการชนกระแทก จะป้องกันคงลำบาก ทางที่ดีก็ควรทำประกันรถเอาไว้

ไฟส่องสว่าง

ดวงไฟต่างๆ ของรถจะปล่อยให้ดับหรือเสียหายไม่ได้ เวลาปกติอาจไม่รู้สึกถึงมัน แต่ถ้าวันไหนขาดไปจะพบความลำบากทันที ยิ่ง ดูแลรถยนต์ หน้าฝน  เพราะฉะนั้น ถ้านึกขึ้นได้ควรเช็คดูว่าไฟหน้า ไฟท้าย ไฟถอย ไฟเบรค ไฟเลี้ยว ยังทำงานปกติหรือไม่ ถ้าพบว่ามีส่วนไหนไม่ทำงานง่ายที่สุดคือ เข้าศูนย์ หรืออู่ ใกล้บ้าน

ใบปัดน้ำฝน

เป็นอีกอย่างที่ไม่ควรปล่อยให้เสื่อมสภาพ ถ้าครบปีก็ควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝน สักครั้ง อาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้ามันเสื่อมสภาพแล้ว ยังฝืนใช้ตอนฝนตกหนัก มันจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุง่ายมาก

ยางรถยนต์

เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่จะต้องคอยดูแลยางรถยนต์ ให้อยู่ในสภาพดี อย่างปลอดภัยที่สุด ควรเปลี่ยนทุกสองปี ควรมีที่เช็คลมยางเอาไว้และหัดใช้ที่เติมลมยางตามปั้มเอาไว้ เป็นผู้หญิงเติมลมยางได้เองไม่ยากเลย  ถ้าพบว่ายางลมอ่อน ดูจากปริมาณ ลมยางที่เหมาะกับรถ  ซึ่งจะอยู่ตรงขอบประตูด้านคนขับ เติมตามตัวเลขนั้นไว้เสมอ และอย่าลืมเช็คยางอะไหล่ และอุปกรณ์เปลี่ยนยางให้พร้อมเสมอ คุณอาจจะลองฝึกเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตัวเองดู มันไม่ยากเลย

  1. ภายในตัวถังรถ

ภายนอกตัวถังรถก็คือทุกอย่างที่เรามองเห็นจากภายนอกนั้นเอง  ซึ่งมีหลายอย่างที่จำเป็นจะต้องดูให้ใช้งานได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ อยู่เสมอเพราะภายในตัวถังก็คือบริเวณโดยสารของรถทั้งหมด บริเวณนี้ การดูแล อาจจะจำกัดอยู่แค่การทำความสะอาด ซึ่งน่าจะเป็นงานที่ทำได้ไม่ยากสำหรับสาวๆ มาดูกันว่ามีอะไรที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษบ้าง

เบาเหนังเบาะกำมะหยี่

เป็นเรื่องที่เถียงกันไม่จบว่าเบาะหนังหรือเบาะกำมะหยี่อย่างไหนดีกว่ากัน  บางคนชอบเบาะหนัง เพราะมันดูดี ดูแลรักษาง่าย บางคนชอบเบาะผ้า เบาะกำมะหยี่ เพราะมันมีลวดลายสวยงาม ทั้งสองอย่างใช้การดูแลรักษาต่างกัน ถ้าเป็นเบาะหนังไม่ว่าหนังแท้หรือ หนังเทียมก็ต้องใช้ น้ำยารักษาเบาะหนังขัดถูเป็นประจำ เพราะถ้ารถโดนแดด โดนความร้อนมากๆ ใช้ไปนานๆ หนังจะเริ่มแตก โดยเฉพาะหนังเทียม ส่วนเบาะผ้าควรดูแลเรื่องความชื้นไม่ควรปล่อยให้เปียก หรือมีความชื้นนาน เพราะอาจจะขึ้นราได้ง่าย

ล้างแอร์

แอร์รถเราสมัยนี้สามารถถอดกรองแอร์ออกมาล้างปัดฝุ่นด้วยตัวเองได้ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจเราสามารถบอกให้ที่ร้านล้างรถ หรืออู่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ถอดออกมาล้างหรือเปลี่ยนให้ได้ แต่ถ้ารถของคุณเข้าศูนย์เป็นประจำทุกปี ทางศูนย์ก็จะจัดการให้

เช็คไฟเตือนทุกครั้งก่อนออกรถ

ก่อนจะออกรถในทุกๆ วัน สิ่งที่ควรจะมองคือหน้าปัดรถยนต์ เช็คดูว่ามีไฟเตือนขึ้นหรือไม่ เช่น ไฟรูปเครื่องยนต์ที่สว่างขึ้น อาจหมายถึงการเผาไหม้ ในระบบไม่สมบูรณ์ เป็นไปได้ทั้งระบบน้ำมัน ระบบจุดระเบิด หรือระบบน้ำมันเครื่อง ทางที่ดีควรเอารถเข้าเช็คที่ศูนย์ หรืออู่ทันที ยังไม่รวมถึงไฟชนิดอื่น เช่น ไฟรูปเบรคที่อาจจะเกี่ยวกับน้ำมันเบรก หรือผ้าเบรก ไฟรูปแบต แสดงว่าประจุไฟในแบตเตอรี่เริ่มต่ำ หรือแบตรถเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว

  1. ไฟห้องเครื่องใต้ฝากระโปรง

ใต้ฝากระโปรงเครื่องยนต์นี่แหล่ะ คือจุดลำบากใจของคุณผู้หญิง เพราะมันเต็มไปด้วย ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ดู ซับซ้อนสกปรก และอันตราย แต่ไม่ต้องกลัว ถ้าคุณผ่านไปได้ คุณจะดูเป็นยอดหญิงแกร่งของโลกใบนี้ เป็นที่พึ่งให้ตัวเองและคนอื่นๆ ได้ ซึ่งส่วนที่ต้องตรวจเช็คมีดังนี้

น้ำมันเครื่อง

แน่นอนว่าส่วนสำคัญของห้องเครื่องก็คือ เครื่องยนต์ การดูแลเครื่องยนต์ การเช็คน้ำมันเครื่องเป็นประจำจะทำให้เรารู้ว่าการทำงานของเครื่องยนต์ เป็นเช่นไร เพราะน้ำมันเครื่องก็เหมือนเลือด สีของมันจะบอกทุกอย่างเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์ มองหาก้านน้ำมันเครื่องส่วนใหญ่ จะอยู่ใกล้กับตัวเครื่องยนต์ หากว่าเพิ่มผ่านการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องมาไม่นาน แต่น้ำมันเครื่องมีสีคล้ำหรือลดเกินขีดต่ำสุด ของมาตรวัดระดับ แสดงว่ามีการรั่วหรือเครื่องยนต์มีปัญหาการเผาไหม้ ลองก้มดูที่พื้นตำแหน่งใต้เครื่องยนต์ว่ามีน้ำมันเครื่องหยดหรือไม่ หากมีก็ควรเอารถไปเช็ค จำไว้ว่าน้ำมันเครื่องต้องมีสีใส และมีระดับอยู่กึ่งกลางของมาตรวัดน้ำมันเครื่อง ระหว่างตำแหน่งบนสุดกับล่างสุด หรือไม่น้อยเกินจุดต่ำสุดและไม่มากเกินจุดสูงสุด

ของเหลวอื่นๆ 

ในห้องเครื่องเราจะเห็นว่ามีจุดที่มีมาตรวัดของเหลวอยู่หลายจุด นอกจากจุดวัดน้ำมันเครื่องแล้ว ตรงตำแหน่งใกล้กับพวงมาลัยจะมีที่ใส่น้ำมันเบรก และน้ำมันพวงมาลัยพาวเว่อร์ที่เราต้องคอยดูไม่ให้ระดับต่ำกว่าจุดต่ำสุด น้ำมันพวงมาลัยพาวเว่อร์จะมีสีแดง แต่น้ำมันเบรกจะมีสีใส ส่วนหน้าเครื่องยนต์ส่วนใหญ่จะมีกล่องใส่น้ำปัดน้ำฝน และที่เติมหม้อน้ำ ซึ่งต้องคอยเติมให้เต็ม ส่วนหม้อน้ำเวลาเติมต้องระวังให้เครื่องยนต์เย็นก่อน ไม่งั้นจะมีน้ำร้อนๆ พุ่งออกมา

แบตเตอรี่

ปัจจุบันหลายคนนิยมใช้แบตแห้งกันแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่น แต่ถ้ายังเป็นรถที่ใช้แบตน้ำอยู่ ก็หมั่นดูว่าน้ำลดหรือไม่ แล้วเติมน้ำกลั่นให้เต็มก็พอ ส่วนแบตแห้งจะมีจุดที่ให้ดูว่าประจุไฟมีปัญหาหรือไม่ สำหรับแบตเตอรี่สักสองปีควรเปลี่ยนได้แล้ว

เพียงเท่านี้ คุณผู้หญิงทั้งหลายก็จะมีความรู้มากพอที่จะดูแลรถคันโปรด ได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้จะต้องคอยสังเกตอาการของรถเอาเอง ซึ่งถ้าขับบ่อยๆ ก็จะรู้สึกได้เองถึงความผิดปกติของรถ และเมื่อตัวคุณพร้อม รถพร้อมคุณก็จะใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย ส่วนเรื่องเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เหนือการควบคุม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ประกันรถยนต์ ที่รู้ใจ ให้ความอบอุ่น มั่นใจ ในการดูแลรถคันโปรด ทาง   ประกันภัยดีดี มีความพร้อมทำให้คุณ มั่นใจปลอดภัยตลอดการเดินทาง  อู่ในเครือ ทั่วประเทศไทย

ดูแลรถยนต์

เทคนิค วิธี ดูแลรถยนต์ ในช่วงหน้าฝน เพิ่มความอุ่นใจในการขับรถอย่างปลอดภัย

เทคนิคดูแลรถยนต์ ในช่วงหน้าฝน มีวิธีอะไรบ้าง

วิธีดูแลแบตเตอรี่ช่วงหน้าฝน

หากขับรถลุยน้ำท่วมมาอย่างหนักหน่วง ปัญหาที่ตามมาคือ ความชื้นที่ทำให้เกิดขี้เกลือ ส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติด รวมถึงทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว หรือไฟช็อตได้ โดยมีวิธีดูแลรักษา ดังนี้

– นำกระดาษทราย หรือแปรงลวดมาขัด

– ใช้ผ้าแห้งซับ จากนั้น ฉีดสเปรย์ที่มีคุณสมบัติไล่ความชื้น

– ทาจารบีเคลือกบางๆ เพื่อกำจัดขี้เกลือกให้หมดไปอย่างถาวร

วิธีดูแลล้อแม็กซ์ช่วงหน้าฝน

ในกรณีที่ล้อแม็กซ์โดนน้ำฝน แนะนำให้รีบทำความสะอาดโดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่เกิดคราบสกปรกที่ฝังแน่น สามารถทำความสะอาดได้ด้วยน้ำยาสำหรับขัดล้อแม็กซ์ โดยเฉพาะ จะได้ไม่เกิดความเสียหายภายหลัง โดยมีวิธีทำความสะอาด ดังนี้

– ไม่ควรล้างล้อแม็กซ์ ในขณะที่ยังร้อนอยู่เนื่องจากทำให้น้ำยาล้างรถแห้งเร็ว ส่งผลให้เกิดคราบฝังแน่นได้

– ในกรณีที่มีคราบฝังแน่นที่ยากต่อการทำความสะอาด แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยน้ำมันก๊าด น้ำมันสน หรือน้ำยาเช็ดคราบสกปรกที่ฝังแน่น แล้วใช้ผ้าเช็ดลงไป จากนั้นใช้แชมพูล้างบริเวณที่เกิดคราบ แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำเปล่า ปิดท้ายด้วยเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด

วิธีดูแลที่ปัดน้ำฝนช่วงหน้าฝน

– หมั่นตรวจเช็ค และทำความสะอาดที่ปัดน้ำฝนให้สม่ำเสมอ ด้วยการใช้ผ้าชุดน้ำเช็ดทำความสะอาดเพื่อกำจัดฝั่น หรือคราบฝังแน่น ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายภายหลัง

– ในกรณีที่ยางที่ปัดน้ำฝนเป็นขุย หรือหลุดออกมา แนะนำให้เปลี่ยนยางใหม่

– หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด เพราะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพการใช้งานอย่างรวดเร็ว

วิธีดูแลเบาะหนังช่วงหน้าฝน

หากเบาะหนังมีความชื้นสะสม ปัญหาที่ตามมาคือกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ และมีส่วนทำให้เกิดความเสียหายที่มีค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งความชื้นที่สะสมอยู่ ก็เป็นบ่อเกิดของแบคทีเรีย ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของเจ้าของรถอย่างมาก ดูแลรถยนต์ หน้าฝน ดังนั้น หากรถมีความชื้น แนะนำให้เปิดประตูหน้าต่างทิ้งเอาไว้ เพื่อระบายอากาศ นอกจากนี้การโรยแป้งก็มีส่วนช่วยกำจัดความชื้นได้ดีเช่นกัน

ถ้าไม่อยากให้รถยนต์ คันโปรด ของคุณต้องเผชิญกับปัญหา ที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายสูง หรือมีความเสียหายหนัก  ประกันภัยดีดี แนะนำ ให้หมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่หากเกิดปัญหา  จะได้แก้ไขได้ทัน และลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มักเกิด ช่วงฝนตกหนักๆ ถนนลื่น ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง และเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงการทำ ประกันภัยรถยนต์ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราอบอุ่น มั่นใจ ในความพร้อมที่ให้ความคุ้มครองรถของคุณ ทุกเวลา

สรุป 

ปัจจุบันรถยนต์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ในยุคไลฟ์สไตล์ ความปลอดภัย ประสิทธิภาพการใช้งาน ความสะดวกสบาย  การผลิตรถยนต์ต่างๆ ไม่ต่างกับการลงทุนดีๆ เราลงทุนซื้อรถยนต์เพื่อใช้เดินทาง ยอมเสียค่าใช้จ่ายกับต้นทุนรถคันโปรดในราคาที่อาจจะสูง สิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้เลย คือการ ดูแลรักษาอย่างดี ซึ่งการ ดูแลรถยนต์ เราต้อง ใส่ใจ เป็นพิเศษ ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อยืดอายุการใช้งาน  ความรู้ดีๆ เพิ่มเติม วิธีดูแลรถยนต์ หน้าฝน คลิก เพื่อเติมเต็มความพร้อม ทุกเมื่อ ท่านสามารถทำได้ด้วยตัวเองเพื่อรักษาสภาพรถยนต์ และเครื่องยนต์ ให้มีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น นอกจากนี้แล้ว ท่านจะต้องนำรถยนต์ของท่านเข้าไปตรวจเช็คอู่ใกล้บ้านของท่านเป็นประจำ เพื่อเป็นการดูแลเอาใจใส่ รถคันโปรดของเรา ให้ใหม่ และมีสภาพดี อยู่เสมอ

คำถามที่พบบ่อย

การบำรุงรักษารถยนต์คันโปรดของคุณ เบื้องต้นด้วยตัวเอง มีอะไรบ้าง

  • ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง
  • การตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็น
  • ตรวจเช็คยาง
  • ตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝน
  • ตรวจเช็คแบตเตอรี่

วิธีดูแลรถให้ใหม่อยู่เสมอ

  1. ขับขี่อย่างนุ่มนวล

การขับขี่รถอย่างนุ่มนวล ทั้งการออกตัวเร็ว และการเว้นระยะเบรค อย่างเหมาะสม ไม่เพียงช่วยรักษาความสมบูรณ์ของตัวรถให้คงอยู่ยาวนานเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย

  1. ล้างรถสัปดาห์ละครั้ง

การล้างรถช่วยให้ตัวรถดูสะอาดน่าใช้ พร้อมกับชำระล้างสิ่งสกปรกที่อาจมีฤทธิ์กัดกร่อนและฝังอยู่ในร่องที่เรามองไม่เห็นควรทำความสะอาดในห้องโดยสารให้สะอาจด้วยเช่นกัน พรมปูพื้นควรนำออกมาล้างและตากแดดเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้เกิดสิ่งหมักหมม เป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจ ไม่ควรลืมลงแว็กซ์รถให้ทั่วเพื่อรักษาคุณภาพสีรถให้สวยงาม

  1. จอดรถในร่ม

พยายามหาที่จอดรถในร่ม เพื่อรักษาสีของตัวรถและปกป้องห้องโดยสารจากแสดงแดที่แผดเผาของบ้านเรา ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แจใช้แผงกันแดดปิดบังคอนโซลไว้เพื่อป้องกันความเสียหายของวัสดุพลาสติก

  1. เช็ครถระยะสม่ำเสมอ

ความสำคัญ ดูแลรถยนต์ ของการเข้าเช็คระยะตามกำหนด คือการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและตรวจสอบชิ้นส่วน สำคัญต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นทั้งกับรถใหม่และรถมือสอง ช่วยยืดอายุการใช้งานตัวรถและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

  1. ดูแลยางรถยนต์

ตรวจสอบแรงดันลมยาง อย่างสม่ำเสมอโดยเติมลมยางตามคู่มือรถ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งไม่เพียงจะให้ความปลอดภัยในการขับขี่เท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดน้ำมันด้วย

  1. ล้างห้องเครื่องยนต์

ล้างห้องเครื่องยนต์อย่างน้อยปีละครั้ง เพราะเครื่องยนต์ที่สะอาดจะมีอุณหภูมิการทำงานที่ต่ำกว่าเครื่องยนต์ที่สกปรก การดูแลเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสามารถตรวจสอบได้ง่ายว่ามีชิ้นส่วนใดเสียหายบ้างโดยอาจทำความสะอาดด้วยตนเองก็ได้ แต่ควรระมัดระวังชิ้นส่วนสำคัญอย่างกรองอากาศ สายไฟ ละชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับ ระบบอิเล็กทรอนิกส์

  1. เปลี่ยนหัวเทียน

หลายค่ายรถ แนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนทุก 50,000 กม. ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะเครื่องยนต์

  1. ดูแลรักษาแบตเตอรี่

ถึงแม้แบตเตอรี่ในรถของคุณจะเป็นแบบ  Maintenance รถใหม่ free หรือไม่จำเป็นต้องดูแลรักษา แต่ก็ควรตรวจสอบสภาพตัวแบตเตอรี่ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยควรทำความสะอาดให้ใหม่อยู่ตลอดเวลา และตรวจดูว่ามีความเสียหายใดๆ หรือ ไม่

การดูแลรถยนต์ ช่วยยืดอายุการใช้งาน ได้นาน และ ใช้รถด้วยความมั่นใจ ปลอดภัยทุกครั้ง จากหัวข้อที่ต้องเอาใจใส่ ดูแลรถยนต์ หน้าฝน โดยเฉพาะ เครื่องยนต์ จะมีข้อสำคัญในการใส่ใจดูแลหลักๆ ที่กล่าวมา ไม่ว่า การดูแลรักษารถยนต์ 15 ข้อ หรือ ในมุมมองความคิด บางท่าน ก็จะละเอียดอ่อนในการดูแลรถคันโปรด ก็จะ นึกถึงความสำคัญทุกๆ จุด ในแต่ละข้อ รวมๆ กัน ของรถคันโปรด เพื่อให้คงสภาพใหม่เสมอ นั่นก็จะเป็นสิ่งที่ดี ในการเอาใจใส่ดูแลตลอดเวลา ติดต่อเราที่นี่